รู้จักแหล่งที่มาของแรงตีลูก
นักเล่นหัดใหม่ตีลูกไปสักพักหนึ่ง ก็เริ่มจะฉุกคิดขึ้นมาว่า ทำไมการตีลูกของตนถึงไม่มีแรงส่งอย่างใจนึก เหวี่ยงแร็กเก็ตหวดตีลูกเต็มแรงแล้วลูกยังไปไม่ถึงหลัง ให้เรามาช่วยกันคิดค้นดูว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
คำตอบก็คือ การตีลูกในกีฬาแบดมินตัน ไม่เหมือนกับการตีลูกเทนนิส หรือสคว๊อช เพราะเจ้าลูกขนไก่มีน้ำหนักเบา การตีลูกขนไก่ให้พุ่งไปข้างหน้าอย่างแรง จึงต้องอาศัยจังหวะที่สมบูรณ์ผสมผสานกันของแรงเหวี่ยงที่มาจากแหล่งต่าง ๆ ของแรงตีลูก
แหล่งที่มาของแรงตีลูกจำแนกออกได้จาก 3 แหล่งใหญ่ คือ.-
1. แรงที่เกิดจากการถ่ายเปลี่ยนน้ำหนักตัวจากเท้าหลังไปสู่เท้าหน้า
2. แรงที่เกิดจากการเหวี่ยงของลำแขน
3. แรงที่เกิดจากการตวัดและการสะบัดอย่างแรงของข้อมือ
จังหวะการประสานของแรงตีลูกที่มาจากแหล่งต่าง ๆ สังเกตุแขนที่เหยียดตรง
และจังหวะการตวัดของข้อมือ
การตีลูกให้แรงในกีฬาแบดมินตัน จะต้องเกิดจากจังหวะการประสานงานระหว่างแรงเหวี่ยงตีลูกของแขน เสริมด้วยแรงตวัดและแรงสะบัดของข้อมือ หนุนด้วยแรงที่เกิดจากกการเปลี่ยนน้ำหนักตัวของฟุตเวิร์ค จากเท้าหลังไปสู่เท้าหน้า ที่ผสมผสานกลมกลืนกัน ถ้าการประสานงานขององค์ประกอบทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เกิดผิดจังหวะในช่วงใดช่วงหนึ่ง การตีลูกจะมีผลที่ไม่สมบูรณ์ ลูกที่พุ่งจากหน้าแร็กเก็ตจะไม่แรงตามต้องการ
แรงดีดสะบัดของข้อมือ มีช่วงเวลาของการดีดตวัดสั้นกว่าการเหวี่ยงตีลูกด้วยลำแขน แรงที่เกิดการดีด ตวัดและสะบัดของข้อมือนี้ จึงมีช่วงเวลาจำกัด แรงตีลูกที่ว่านี้จึงต้องนำออกใช้ในเสี้ยววินาทีที่ถูกต้อง ไม่ก่อนหรือหลังเกินไปในจังหวะที่แร็กเก็ตกระทบตีถูกลูกขนไก่
แรงดีด ตวัด และสะบัดของข้อมือ นอกจากใช้เสริมแรงตีลูกในวินาทีที่ถูกต้องแล้ว ยังมีบทบาทในการบังคับทิศทางวิ่งของลูกขนไก่ไปสู่เป้าหมายต่าง ๆ ได้หลากหลาย ความเร็วที่เกิดจากการดีด ตวัด สะบัด และพลิกข้อมือ สามารถทำให้คู่แข่งไม่อาจจะจับทางของลูกที่พุ่งข้ามตาข่ายไปได้ ยากแก่ฝ่ายตรงข้ามในการเดาเป้าหมายของลูก
เพื่อการตีลูกที่เกิดจากแรงเหวี่ยงสมบูรณ์แบบ ผู้เล่นควรเริ่มต้นที่ฟุตเวิร์คก่อน สำหรับคนถนัดขวา ก่อนการตีลูกน้ำหนักตัวจะหนักอยู่ที่เท้าขวาหลัง ในช่วงที่กำลังจะตีลูก น้ำหนักตัวจะเริ่มถ่ายไปสู่เท้าซ้ายหน้า การถ่ายเปลี่ยนน้ำหนักตัวนี้จะดำเนินไปพร้อมกับแรงตีลูกที่มาจากอีก 2 แหล่ง คือ การเหวี่ยงของแขน และการดีดตวัดสะบัดข้อมือให้กลมกลืนเป็นจังหวะเดียวกัน เมื่อเหวี่ยงตีลูกไปแล้ว แรงตีลูกได้ถูกนำออกใช้ทั้งหมดเป็นแรงตีลูกในครั้งเดียว จะเกิดวงสะวิงของแร็กเก็ตหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Follow Through ให้เป็นไปตามธรรมชาติ การพยายามฝืนวงสะวิงด้วยการกระชากแร็กเก็ตกลับเร็วเกินไป อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่แขนหรือที่หัวไหล่ได้
การฝึกหัดตีลูกในขั้นต้น ควรเริ่มฝึกตีเฉพาะลูกโด่งเหนือศีรษะ (Overhead) เพราะเป็นลูกเบสิคที่ตีได้ง่าย เหวี่ยงตีตามถนัด ฝึกฝนให้มาก ๆ จนเกิดความแม่นยำ จับจังหวะการเหวี่ยงตีและการใช้แรงจากแหล่งของการตีลูกต่าง ๆ ให้ผสมผสานเป็นจังหวะเดียว
ที่มา :http://www.badmintonthai.or.th/h02.html
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น